หนังกระแสมาแรง ใครไม่ได้ดูถือว่าเฉยมาก

Posted 2022/02/08 159 0

หนังกระแสมาแรง คอหนังและซีรีส์ทั้งหลาย ที่ชอบดูหนังต่างประเทศมาทางนี้

หนังกระแสมาแรง สำหรับคนที่อยากดูหนัง และซีรีส์แบบรื่นหู ที่ไม่ต้องมัวมานั่งอ่านจอ อ่านซับไตเติลสลับกับ การดูหนังให้เสียอรรถรสแล้วละก็ ที่นี่เลยจ้า Netflix ปีนี้มีหนังใหม่ ๆ ที่น่าสนใจมาให้ติดตามชมกัน เพราะมีหลายเรื่องที่พากย์ไทย ฟังเสียงไทยกันแบบ ไม่ต้องห่วงที่จะอ่านตัวหนังสือ หรืออ่านซับนั่นเอง โดยเฉพาะช่วงต้องต้นปีนี้ หนังสนุกครบรส รับรองว่าดูกันเพลิน ๆ อย่างแน่นอน

มีทั้งหนังใหม่และ ซีรีส์ฮิต ที่ไม่ควรพลาด ซีรีส์ที่ทำให้คนดู 15 นาทีแรก ก็ตื่นเต้นไม่อยากจะลุกไปไหนแล้ว ชวนให้มาดู หากคุณเป็นคอหนัง ซอมบี้เกาหลี เราจะพาคุณไปสู่ ดินแดนแห่งเชื้อไวรัส ที่แพร่ระบาดอยู่รอบเมือง กับภาพยนตร์ซีรีส์กระแสแรง All of Us Are Dead หรือ “มัธยมซอมบี้” ที่ขึ้นอันดับ 1 หนังสยองขวัญ ของโลกในเวลาอันรวดเร็ว

เรียกได้ว่าเป็น หนังกระแสมาแรง จนฉุดไม่อยู่จริง ๆ สำหรับ ภาพยนตร์ซีรีส์เรื่องนี้ ที่บางคนอาจจะคิดว่าเหมือนหนังซอมบี้ทั่ว ๆไป ไม่เลยเรื่องนี้มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวซอมบี้ ที่วิ่งสู้ฟัด กัดกินแบบไม่เลือกหน้า และไม่ได้เดินเชื่องช้า แบบซอมบี้ของทางตะวันตก และ หนังแนว K-ซอมบี้ ก่อนหน้านี้ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ก็อย่าง Train to Busan (2016) และ ซีรีส์ Kingdom (2019-2021)

ส่วนเรื่องมัธยมซอมบี้นี้นั้น จะมีด้วยกันทั้งหมด 12 ตอนด้วยกัน แต่ละตอนก็จะยาวประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ มีเนื้อเรื่อง และความดราม่าเข้ามาผสมผสาน ผู้ชมจะได้ชมในหลากหลายแง่มุม ของการเอาชีวิตรอดของเด็ก ๆ วัยเรียน การตัดสินใจของเด็กมัธยม ที่อยู่ท่ามกลางฝูงซอมบี้ ที่กำลังกระหายเลือดอยู่ มาคอยติดตามชมกันว่า พวกเขาเหล่านั้น จะหนีออกมาจากพื้นที่ที่ไวรัสระบาดนี้ได้อย่างไร แล้วใครจะรอดจากสถานการณ์นี้กันบ้าง

เรื่องย่อ All of Us Are Dead | มัธยมซอมบี้ | 지금 우리 학교는

โรงเรียนมัธยมปลายฮโยซัน ที่เกิดเรื่องราวโกลาหลขึ้น กลายเป็นสมรภูมิเลือด และต้องฆ่ากันเองเพราะความหิวและมีชีวิตรอด การหนีตายของกลุ่มนักเรียน ที่ต้องฝ่าดงฝูงซอมบี้ เพื่อเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง โรคประหลาดที่กลายเป็นเชื้อไวรัสติดต่อกัน จากการถูกกัดทำให้เกิดการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง ยากที่จะควบคุม ทำให้ฝ่ายทหารต้องออกมาประกาศกฎอัยการศึก แต่แท้จริงแล้วต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เกิดจากครูวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน ที่มีลูกชายและถูกลูกคนรวยกลั่นแกล้ง ทำให้ลูกของเขาอยากฆ่าตัวตาย และ ผอ.โรงเรียนก็ไม่ช่วยอะไร เขาจึงทำการทดลองและเปลี่ยน ให้ลูกชายกลายเป็นสัตว์ประหลาด เพื่อจะได้ไม่ต้องเกรงกลัวความตายอีกต่อไป

จากนั้นมีเด็กนักเรียนหญิง พลาดถูกหนูแฮมสเตอร์ที่ครูทดลองไว้กัด ครูเข้ามาพบพอดีจึงจับเธอมัดไว้ในห้องวิทยาศาสตร์ เป็นเวลา 2 วัน จนเด็กนักเรียนหญิงคนนั้น เธอค่อย ๆ กลายร่างเป็นซอมบี้ที่มีพลังกำลังเหนือมากกว่าคนปกติ เธอหลุดออกมาได้จากจากห้องนั้น และเดินไปขอความช่วยเหลือ เธอควบคุมตัวเองไม่ได้จากเชื้อที่รุกรามตัวเธอ ด้วยความกระหายเลือดเธอกลายเป็นซอมบี้ กัดเข้าที่แขนของคุณครูพยาบาล 1 ครั้ง จากนั้น…หายนะก็ได้เริ่มต้นขึ้น

เป็นการเล่าถึงการต่อสู้ สุดตึงเครียดระหว่างนักเรียน ที่กลายเป็นฝูงซอมบี้ กับบรรดาผู้รอดชีวิต ที่ดิ้นรนหนีตาย โดยกลุ่มนักเรียนที่รอดชีวิต ต่างพยายามหาทางเอาตัวรอด จากเหตุการณ์นี้ โดยไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีอาหาร และไม่มีใครเหลียวแล พวกเขาต้องใช้สิ่งของ และอุปกรณ์รอบตัวในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็น โคมไฟ ชั้นหนังสือ แม้กระทั่ง คันธนู เพื่อปกป้องตนเอง จากฝูงซอมบี้ท่ามกลางสมรภูมิ การเอาชีวิตรอดสุดแสนสิ้นหวัง

ซอมบี้บ้าคลั่งวิ่งสู้ฟัด ที่การบิดตัวรวมถึง ทำสะพานโค้งอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ต้องยอมรับว่าเกาหลีทำซอมบี้แนวนี้ จนกลายเป็นของตนเองได้แข็งแรงมาก ทั้งที่ไม่ใช่คนต้นคิดด้วยซ้ำ จากทั้ง หนังกระแสมาแรง อย่าง “Train to Busan” (2016) หรือซีรีส์ “Kingdom” (2019-2021) ซีรีส์เรื่องนี้ ก็มาตอกย้ำภาพให้แข็งแรงขึ้นอีก

ทั้งยังเป็นการนำเนื้อหามาจากเว็บตูนผลงานของ จูดองกึน (Joo Dong-geun) ที่ฉบับภาษาไทย ใช้ชื่อว่า ‘ตอนนี้ โรงเรียนของเรา..’ ซึ่งมีฐานแฟนการันตีความนิยมมาก่อนแล้ว คล้ายกับซีรีส์ “Sweet Home” (2020) หรือ “Hellbound” (2021) ที่ต่างเรียกกระแสความสนใจ ได้มากตั้งแต่แรกเช่นกัน

หนังกระแสมาแรง ที่เลือกจะฆ่าหรือ จะยอมถูกฆ่า

“เราทุกคนจะตายกันหมด ไม่มีหวังแล้ว” 

เรื่องนี้เป็นหนังแนวสยองขวัญ ระทึกขวัญ แอคชั่น โดยผู้กำกับ : อีแจคยู (ผลงานก่อนหน้า กำกับซีรีส์ The King 2 Hearts) | คิมนัมซู คนเขียนบท : จูดงกึน (ผู้แต่งเว็บตูน) | ชอนซองอิล (ผู้เรียบเรียงบทละคร, ผลงานก่อนหน้า เขียนบทซีรีส์ L.U.C.A.: The Beginning) ออกอากาศทางช่อง : Netflix เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565

โดยใช้นักแสดงวัยรุ่น ที่รับบทเดินเรื่องหลัก ๆ ทั้งดัน พักจีฮู (Park Ji-Hoo) ที่เคยมีผลงานในเน็ตฟลิกซ์และรับบทนำในหนังมากรางวัลอย่าง ‘House of Hummingbird’ (2018) มารับบท อนโจ ประกบกับ ยุนชานยอง (Yoon Chan-Young) ในบท ชองซาน ที่พอบอกได้ว่าเป็นคู่นำหลัก 1 ใน 2 คู่เลยก็ว่าได้ ในขณะที่ฝั่งผู้ใหญ่ก็ไม่ได้เน้น นักแสดงเบอร์ใหญ่แต่ใช้ดาราที่มีฝีมือ เคยผ่านงานหนังและซีรีส์มาเล่น ช่วยประคองเรื่องราวในพาร์ตฝั่งพ่อแม่ผู้ปกครอง และฝั่งการเมืองการทหารได้

สรุปความโดดเด่นและจุดอ่อนของเรื่องนี้

จุดเด่น ยอมรับเลยว่า เน็ตฟลิกซ์เป็นช่องสตรีมค่ายยักษ์ใหญ่ ที่ลงทุนทำโปรดักชั่นแบบจัดเต็ม ความสยองมีมุมมองภาพแบบฉบับ “ลองเทค” หลายชอตให้ชมกันเพลินๆ จนแทบละสายตาจากจอไม่ได้ ซึ่งตัวละครแต่ละตัวมีคาแรกเตอร์ ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ล้วนเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ มีผลงานภาพยนตร์หลากหลายเรื่อง รวมพลกำลังโชว์สกิลเล่นจริงเจ็บจริง จนหลายคนต้องอินไปตามบทที่พวกเขาได้รับ

การเอาพล็อตจากเว็บตูนมาดัดแปล มีการสรอดแทรกไปด้วยแง่มุมทางสังคมโลก การแบ่งชนชั้นรวยจน การกดขี่ข่มเหง การเมือง ปัญหาสังคมโรงเรียน ปัญหาวัยรุ่น พร้อมปรัชญาการใช้ชีวิตอีกมากมาย เพื่อให้เราได้เก็บไปพิจารณากันอีกด้วย

จุดอ่อน เรื่องนี้อาจจะมีขัดใจคนดูอยู่บ้าง หรือไม่มีความ Make Sense ในบทบาทตัวละครบางตัว เช่นอยู่ดีๆ ก็เดินไปให้ซอมบี้กัดกิน กลายเป็นกระแสวิจารณ์ ถึงแม้ยังไม่รู้ความชัดเจนถีงการทำบทให้เป็นแบบนี้ ต่างคาดเดากันว่าหรืออาจจะเป็นทริกในการสร้างเรื่องราว ให้ผู้ชมรู้สึกขัดแย้งกับบทบาทจนหงุดหงิด แต่ก็ยังอยากติดตามไปเรื่อยๆ เพื่ออยากรู้ถึงตอบจบนั่นเอง และนี่เป็นหนัง K-ซอมบี้ ที่โชว์ความสยองไปพร้อม ๆ กับลุ้นว่าใครจะรอด ภาพสวย มุมกล้องงาม แถมตัวละครตีบทแตก คอหนังสยองขวัญไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

 

 

อ่านต่อ>>>หนังวาเลนไทน์

UFABET

แทงบอลออนไลน์